ข้ามไปเนื้อหา

รอย โจนส์ จูเนียร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
รอย โจนส์ จูเนียร์
เกิดรอย ลีเวสตา โจนส์ จูเนียร์
16 มกราคม พ.ศ. 2512
สถิติเหรียญโอลิมปิก
มวยสากลสมัครเล่น
โอลิมปิกฤดูร้อน
เหรียญเงิน - รองชนะเลิศ โซล 1988 ไลท์มิดเดิลเวท

รอย โจนส์ จูเนียร์ (อังกฤษ: Roy Jones, Jr.) มีชื่อจริงว่า รอย ลีเวสตา โจนส์ จูเนียร์ (Roy Levesta Jones, Jr.) นักมวยสากลชาวอเมริกัน เขาคืออดีตแชมป์โลกสี่รุ่น และได้รับการยอมรับอย่างมากว่าเป็นหนึ่งในนักมวยที่เก่งที่สุดตลอดกาล

ประวัติ

[แก้]

รอย โจนส์ จูเนียร์ มีชื่อเสียงโด่งดังมาตั้งแต่ยังชกมวยสากลสมัครเล่นอยู่ เมื่อติดทีมชาติสหรัฐอเมริกา ในรุ่นไลท์มิดเดิลเวท ในการแข่งขันโอลิมปิกที่โซล ประเทศเกาหลีใต้ โจนส์สามารถผ่านไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศได้ แต่ปรากฏว่าเมื่อต้องพบกับ พัก ซี-ฮัน นักมวยเจ้าภาพ โจนส์ถูกปล้นชัยชนะไปอย่างหน้าตาเฉย โดยแพ้คะแนนไปอย่างขัดสายตาคนดูทั้งโลก ซึ่งผลการชกในครั้งนี้ถือเป็นข้อครหาข้อหนึ่งของการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้เลยทีเดียว

หลังจากนั้น จึงหันมาชกมวยสากลอาชีพ มีสถิติชนะรวด โดยไม่มีแพ้หรือเสมอ จนได้มีโอกาสชิงแชมป์โลก IBF รุ่นมิดเดิลเวท ที่ว่างอยู่กับ เบอร์นาร์ด ฮอปกินส์ นักมวยเพื่อนร่วมชาติ ผลปรากฏว่าโจนส์เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปได้อย่างเอกฉันท์เมื่อครบ 12 ยก เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2536

ในรุ่นนี้โจนส์ป้องกันแชมป์เพียงครั้งเดียว โดยชนะน็อกไปในยกที่ 2 จากนั้นจึงสละเข็มขัดขึ้นไปชกในรุ่นที่ใหญ่กว่าเดิม คือ ซูเปอร์มิดเดิลเวท และได้ชิงแชมป์โลก IBF ในรุ่นนี้ของ กับ เจมส์ โทนีย์ ยอดนักชกไร้พ่ายในเวลานั้น ปรากฏว่าโจนส์ก็สามารถเอาชนะได้อย่างขาดลอยอีกเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537

รอย โจนส์ จูเนียร์ ป้องกันตำแหน่งแชมป์ซูเปอร์มิดเดิลเวทไว้ได้ทั้งหมด 5 ครั้ง แล้วจึงสละแชมป์ขยับขึ้นไปชกในรุ่นไลท์เฮฟวีเวท จนได้โอกาสชิงแชมป์เฉพาะกาลที่ว่างของ WBC กับ ไมค์ แม็คคัลลัม ก็ปรากฏว่าโจนส์ก็เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปได้อีกเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 ที่เมืองแทมปา

แต่แล้วนักมวยไร้พ่ายอย่าง รอย โจนส์ จูเนียร์ ก้ต้องมาพบกับความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก เมื่อป้องกันตำแหน่งแชมป์โลก WBC ไลท์เฮฟวีเวทนี้ครั้งแรก เมื่อแพ้ DQ ต่อ มอนเทล กริฟฟิน ไปอย่างไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เพราะชกติดพันขณะที่กริฟฟินทรุดลงไปในยกที่ 9 กรรมการห้ามบนเวทีเห็นว่าเป็นการชกซ้ำ จึงตัดสินให้โจนส์แพ้ไป

รอย โจนส์ จูเนียร์ จึงเก็บความแค้นนี้ไว้ และมาระบายออกเมื่อได้โอกาสล้างตากับกริฟฟินอีกครั้ง คราวนี้โจนส์น็อกกริฟฟินแย่งเข็มขัดแชมป์คืนมาได้แค่ยกแรกเท่านั้นเอง เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2540

รอย โจนส์ ป้องกันตำแหน่งในรุ่นไลท์เฮฟวีเวทนี้ไว้ได้ถึง 12 ครั้ง โดยทำการรวบแชมป์ของทั้ง 3 สถาบันใหญ่ และสถาบันเล็ก ๆ อย่าง IBO และ IBA และรวมถึงสถาบันระดับภูมิภาคอย่าง NBA ด้วย ซึ่งในช่วงนี้ รอย โจนส์ จูเนียร์ ได้รับการยกย่องให้เป็นนักมวยที่เก่งกาจที่สุดในโลกเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ จนเรียกได้เลยว่า ไม่มีใครที่จะเป็นคู่ปรับกับโจนส์ได้ในรุ่นระหว่างนี้ บวกกับการออกหมัดที่ว่องไวมาก จนกล่าวได้ว่าเป็นสปีดหมัดที่ไวที่สุดในวงการมวยโลกเท่าที่เคยมีมาเลยทีเดียว

จากนั้น รอย โจนส์ จึงข้ามไปชกในรุ่นเฮฟวีเวท ซึ่งโจนส์ก็ประสบความสำเร็จเมื่อเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนน จอห์น รุยซ์ แชมป์โลก WBA รุ่นเฮฟวี่เวท ชาวอเมริกัน ของ ไปได้เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2546 ทั้งที่ก่อนการชกโจนส์ชั่งน้ำหนักได้เพียงแค่ 193 ปอนด์เท่านั้น (88 กิโลกรัม) ขณะที่รุยซ์หนักถึง 226 ปอนด์ (103 กิโลกรัม) และนับว่าโจนส์เป็นนักมวยที่ขึ้นมาจากรุ่นมิดเดิลเวทเป็นคนแรกในรอบ 106 ปี ที่สามารถเอาชนะในรุ่นเฮฟวีเวทได้ และเป็นคนแรกด้วยที่ขึ้นมาจากรุ่นมิดเดิลเวทที่ได้แชมป์โลกในรุ่นเฮฟวีเวท

จากนั้นโจนส์ก็ได้สละแชมป์โลกไปโดยไม่ได้ป้องกันตำแหน่งกับใคร เพื่อลดกลับไปชกในรุ่นไลท์เฮฟวีเวทที่เหมาะสมกับตนเองตามเดิม และโจนส์ก็สามารถเอาชนะคะแนน อันโตนิโอ ทาร์เวอร์ นักมวยเพื่อนร่วมชาติเจ้าของเหรียญทองแดงในโอลิมปิกที่แอตแลนต้า ได้เป็นแชมป์โลก WBC และ IBO รุ่นไลท์เฮฟวีเวทอีกครั้ง แต่ผลการชกครั้งนี้หลายฝ่ายเห็นว่าทาร์เวอร์ทำได้ดีกว่าและน่าจะเป็นฝ่ายชนะคะแนนมากกว่า ทั้งคู่จึงได้ล้างตากันอีกครั้ง ในวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2547 คราวนี้ปรากฏว่าเป็นฝ่ายเทรเวอร์ที่เอาชนะทีเคโอโจนส์ได้ไปอย่างหายสงสัย

จากนั้นรอย โจนส์ ได้หวนกลับมาชิงแชมป์โลก IBF อีกครั้ง กับ เกล็น จอห์นสัน นักชกชาวจาเมกา ปรากฏว่าโจนส์เป็นฝ่ายแพ้น็อกจอห์นสันไปอีกในยกที่ 9 เมื่อเดือนกันยายน ปีเดียวกัน

หลังจากนั้นในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2548 โจนส์ก็ได้มีโอกาสชกล้างตาอีกครั้งกับทาร์เวอร์ คราวนี้โจนส์ก็เป็นฝ่ายแพ้คะแนน 12 ยกไปอีก ท่ามกลางเสียงกล่าวขานว่า หมดยุคของเขาแล้ว

รอย โจนส์ จูเนียร์ ยังคงชกทำฟอร์มไปอีก 3 ครั้ง รวมทั้งการเอาชนะคะแนน เฟลิกซ์ ตรินิดัด อดีตยอดนักมวยชาวปวยร์โตรีกันที่หวนกลับชกอีกครั้งในรุ่นไลท์เฮฟวีเวทด้วย

และรอย โจนส์ ก็ได้พบกับ โจ คัลซากี ยอดนักชกชาวเวลส์ ผู้เป็นเจ้าของสถิติไม่แพ้ใครและเป็นแชมป์ไลท์เฮฟวี่เวทผู้ป้องกันตำแหน่งไว้ได้มากมายของ WBO เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 และเป็นฝ่ายแพ้คะแนนไปเมื่อครบ 12 ยก ท่ามกลางหน้าตาที่แตกยับเยิน

ในช่วงที่รุ่งเรือง รอย โจนส์ จูเนียร์ นอกจากถูกยกย่องว่าเป็นนักมวยที่เก่งที่สุดในโลกเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์แล้ว เขายังใช้เวลาว่างจากการชกมวยเล่นบาสเก็ตบอลด้วย โดยเล่นในทีมของรัฐฟลอริดาบ้านเกิดในลีกระดับรองมาจาก NBA และยังเป็นศิลปินเพลงแร็พ ได้ออกอัลบั้มถึงหลายชุด และยังเป็นนักแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูดในบทตัวประกอบอีกด้วย ผลงานการแสดงของโจนส์ก็ได้แก่ The Devil's Avocate ในปี พ.ศ. 2539 และ The Matrix Reloaded ในปี พ.ศ. 2546 เป็นต้น

เกียรติประวัติ

[แก้]
  • แชมป์ WBC Continental Americas รุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวท
  • แชมป์โลก IBF รุ่นมิดเดิลเวท
  • แชมป์โลก IBF รุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวท
    • ชิง, 18 พฤศจิกายน​ 2537 ชนะคะแนน เจมส์ โทนีย์ ( สหรัฐ) ที่ เอ็มจีเอ็มแกรนด์ลาสเวกัส ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 1, 18 มีนาคม 2538 ชนะทีเคโอ อันตอเน เบิร์ด ( สหรัฐ) ยก 1 ที่ เพนซาโคลาซีวิกเซนเตอร์ เพนซาโคลา รัฐฟลอริดา สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 2, 24 มิถุนายน​ 2538 ชนะทีเคโอ​ วินนี แพเซียนซา ( สหรัฐ) ยก 6 ที่ บอร์ดวอล์กฮอล แอตแลนติกซิตี รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 3, 30 กันยายน 2538 ชนะทีเคโอ โทนี ธอร์นตัน ( สหรัฐ) ยก 3 ที่ เพนซาโคลาซีวิกเซนเตอร์ เพนซาโคลา รัฐฟลอริดา สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 4, 15 มิถุนายน​ 2539 ชนะอาร์ทีดี อีริก ลูคัส (ธงของประเทศแคนาดา แคนาดา) ยก 11 ที่ แจ็กสันวิลล์คอลิเซียม แจ็กสันวิลล์ รัฐฟลอริดา สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 5, 4 ตุลาคม​ 2539 ชนะทีเคโอ ไบรแอนท์ แบรนนอน ( สหรัฐ) ยก 2 ที่ เมดิสันสแควร์การ์เดน นครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก สหรัฐ
    • สละแชมป์
  • แชมป์เฉพาะกาล WBC รุ่นไลท์เฮฟวีเวท
    • ชิง, 22 พฤศจิกายน​ 2539 ชนะคะแนน ไมก์ แมกคัลลัม (ธงของประเทศจาเมกา จาเมกา) ที่ แอมาไลอารีนา แทมปา รัฐฟลอริดา สหรัฐ (ต่อมา WBC ได้แต่งตั้งเป็นแชมป์โลกจริง)
  • แชมป์โลก WBC รุ่นไลท์เฮฟวีเวท
    • เสียแชมป์ (ในการป้องกันครั้งแรก), 21 มีนาคม 2540 แพ้ดีคิว มอนเทล กริฟฟิน ( สหรัฐ) ยก 9 ที่ ฮาร์ดร็อกไลฟ์ แอตแลนติกซิตี รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐ
  • แชมป์โลก WBC รุ่นไลท์เฮฟวีเวท (สมัยที่ 2)
    • ชิง, 7 สิงหาคม 2540 ชนะน็อก มอนเทล กริฟฟิน ( สหรัฐ) ยก 1 ที่ ฟอกซ์วูดรีสอร์ทคาสิโน เลนยาร์ด รัฐคอนเนกทิคัต สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 1 และชิงแชมป์โลก WBA ในรุ่นเดียวกัน, 18 กรกฎาคม​ 2541 ชนะคะแนน ลู เดล บัลเล ( สหรัฐ) ที่ เมดิสันสแควร์การ์เดน นครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 2 , 14 พฤศจิกายน​ 2541 ชนะทีเคโอ โอติส แกรนท์ (ธงของประเทศแคนาดา แคนาดา) ยก 10 ที่ ฟอกซ์วูดรีสอร์ทคาสิโน เลนยาร์ด รัฐคอนเนกทิคัต สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 3, 9 กรกฎาคม​ 2542 ชนะทีเคโอ ริชาร์ด เฟรเซอร์ ( สหรัฐ) ยก 2 ที่ เพนซาโคลาซีวิกเซนเตอร์ เพนซาโคลา รัฐฟลอริดา สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 4 และชิงแชมป์โลก IBF ในรุ่น​เดียวกัน, 5 มิถุนายน​ 2542 ชนะคะแนน เรจจี จอห์นสัน ( สหรัฐ) ที่ แฮราห์ กัลฟ์ คอสท์ ไบโลซี รัฐมิสซิสซิปปี สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 5, 15 มกราคม 2543 ชนะคะแนน เดวิด เทเลสโก ( สหรัฐ) ที่ เรดิโอซิตีมิวสิกฮอล นครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 6, 13 พฤษภาคม 2543 ชนะทีเคโอ ริชาร์ด ฮอล (ธงของประเทศจาเมกา จาเมกา) ยก 11 ที่ แบงก์เกอร์ไลฟ์ ฟิลด์ เฮาส์ อินเดียแนโพลิส รัฐอินดีแอนา สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 7 และชิงแชมป์โลก IBO ในรุ่นเดียวกัน, 9 กันยายน 2543 ชนะอาร์ทีดี อีริก ฮาร์ดดิง ( สหรัฐ) ยก 10 ที่ สมูททีคิงเซนเตอร์ นิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา สหรัฐ (ภายหลัง WBA เลื่อนตำแหน่งให้เป็นซูเปอร์แชมป์ในรุ่นเดียวกัน)
    • ป้องกันครั้งที่ 8, 24 กุมภาพันธ์ 2544 ชนะอาร์ทีดี เดอร์ริก ฮาร์มอน ( สหรัฐ) ยก 10 ที่ แอมาไลอารีนา แทมปา รัฐฟลอริดา สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 9 และชิงแชมป์โลก WBF กับ IBA ในรุ่นเดียวกัน, 28 กรกฎาคม​ 2544 ชนะคะแนน ฆูลิโอ เซซาร์ กอนซาเลซ (ธงของประเทศเม็กซิโก เม็กซิโก) ที่ สเตเปิลส์เซ็นเตอร์ ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 10 และชิงแชมป์โลกเดอะริงในรุ่นเดียวกัน, 2 กุมภาพันธ์ 2545 ชนะน็อก เกลน เคลลี (ธงของประเทศออสเตรเลีย ออสเตรเลีย) ยก 7 ที่ อเมริกันแอร์ไลน์สอารีนา ไมแอมี รัฐฟลอริดา สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 11, 7 กันยายน 2545 ชนะทีเคโอ คลินตัน วูดส์ ( สหราชอาณาจักร) ยก 6 ที่ โมดาเซนเตอร์ พอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน สหรัฐ (ต่อมาสละแชมป์โลก WBC , IBF และ WBF)
    • ป้องกันครั้งที่ 12 (เฉพาะแชมป์โลก WBA , IBO กับเดอะริง) และชิงแชมป์โลก WBC ในรุ่นเดียวกัน, 8 พฤศจิกายน​ 2546 ชนะคะแนน อันโตนิโอ ทาร์เวอร์ ( สหรัฐ) ที่ แมนดะเลย์เบย์ ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
    • เสียแชมป์, 15 พฤษภาคม​ 2547 แพ้ทีเคโอ อันโตนิโอ ทาร์เวอร์ ( สหรัฐ) ยก 2 ที่ แมนดะเลย์เบย์ ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
  • แชมป์โลก WBA รุ่นเฮฟวีเวท
    • ชิง, 1 มีนาคม 2546 ชนะคะแนน จอห์น รุยซ์ ( สหรัฐ) ที่ โธมัสแอนด์แมกเซนเตอร์ ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
    • สละแชมป์
  • แชมป์ WBO - NABO รุ่นไลท์เฮฟวีเวท
    • ชิง, 29 กรกฎาคม​ 2549 ชนะคะแนน ปรินซ์ บาดี อาจามู ( สหรัฐ) ที่ ไอดาโฮเซนทรัลอารีนา บอยซี รัฐไอดาโฮ สหรัฐ
    • สละแชมป์
  • แชมป์โลก IBC รุ่นไลท์เฮฟวีเวท
    • ชิง, 14 กรกฎาคม​ 2550 ชนะคะแนน แอนโทนี แฮนด์ชอว์ ( สหรัฐ) ที่ มิสซิสซิปปี​ คอสท์ คอลิเซียม ไบโลซี รัฐมิสซิสซิปปี สหรัฐ
    • สละแชมป์
  • แชมป์ WBO - NBCO รุ่นไลท์เฮฟวีเวท (สมัยที่ 2)
    • ชิง, 21 มีนาคม 2552 ชนะทีเคโอ โอมาร์ เชกา ( สหรัฐ) ยก 5 ที่ เพนซาโคลาซีวิกเซนเตอร์ เพนซาโคลา รัฐฟลอริดา สหรัฐ
    • ป้องกันครั้งที่ 1, 15 สิงหาคม 2552 ชนะอาร์ทีดี เจฟ เลซี ( สหรัฐ) ยก 10 ที่ มิสซิสซิปปี​ คอสท์ คอลิเซียม ไบโลซี รัฐมิสซิสซิปปี สหรัฐ
    • สละแชมป์
  • แชมป์ UBO Intercontinental (แชมป์เงา UBO) รุ่นครุยเซอร์เวท
  • แชมป์โลก WBU (สถาบันของเยอรมนี) รุ่นครุยเซอร์เวท
  • แชมป์โลก WBF รุ่นครุยเซอร์เวท
    • ชิง, 17 กุมภาพันธ์​ 2560 ชนะทีเคโอ บ็อบบี กันน์ (ธงของประเทศแคนาดา แคนาดา) ยก 8 ที่ เชสเซนเตอร์ วิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ สหรัฐ
    • สละแชมป์
  • แชมป์โลก WBU (สถาบันของเยอรมนี) รุ่นครุยเซอร์เวท (สมัยที่ 2)
    • ชิง, 8 กุมภาพันธ์ 2561 ชนะคะแนน สกอทท์ ซิมมอน ( สหรัฐ) ที่ เพนซาโคลาเบย์เซนเตอร์ เพนซาโคลา รัฐฟลอริดา สหรัฐ
    • สละแชมป์
  • เคย​ชิงแชมป์​ต่อไปนี้​แต่​ไม่​ส​ำ​เร็จ
    • ชิงแชมป์โลก WBF รุ่นไลท์เฮฟวีเวท, 15 พฤษภาคม​ 2547 แพ้ทีเคโอ อันโตนิโอ ทาร์เวอร์ ( สหรัฐ) ยก 2 ที่ แมนดะเลย์เบย์ ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
    • ชิงแชมป์โลก IBF รุ่นไลท์เฮฟวีเวท, 25 กันยายน 2547 แพ้น็อก เกลน จอห์นสัน (ธงของประเทศจาเมกา จาเมกา) ยก 9 ที่ เฟดเอ็กซ์ฟอรัม เมมฟิส รัฐเทนเนสซี สหรัฐ
    • ชิงแชมป์โลก IBO และเดอะริงรุ่นไลท์เฮฟวีเวท, 1 ตุลาคม​ 2549 แพ้คะแนน อันโตนิโอ ทาร์เวอร์ ( สหรัฐ) ที่ แอมาไลอารีนา แทมปา รัฐฟลอริดา สหรัฐ
    • ชิงแชมป์โลกเดอะริงรุ่นไลท์เฮฟวีเวท, 8 พฤศจิกายน​ 2551 แพ้คะแนน โจ คัลซากี ( สหราชอาณาจักร) ที่ เมดิสันสแควร์การ์เดน นครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก สหรัฐ
    • ชิงแชมป์โลก IBO รุ่นครุยเซอร์เวท, 2 ธันวาคม 2552 แพ้ทีเคโอ​ แดนนี กรีน (ธงของประเทศออสเตรเลีย ออสเตรเลีย) ยก 1 ที่ ซิดนีย์ซูเปอร์โดม ซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย

อ้างอิง

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]